กลลวง ซ่อนตาย

 เลขส่วนเนื้อหาที่ 2


เมนูเลือก หน้า
  • Home

  • Chapter1

  • Chapter2

  • Chapter3

  • Chapter4
  • เนื้อเรื่องย่อ บทที่2

            อิชิกามิ พาตัวเองออกจากบ้านตามปกติเหมือนทุกวัน ในเวลา 7.35 นาฬิกา ย่างเข้าเดือนมีนาคมแล้วสิ แต่ลมที่พัดพลิ้วเข้ามาก็ยังเย็นยะเยือก เขาหลุบคางเข้าไว้ใต้ผ้าพันคอแล้ว เริ่มออกเดิน ก่อนจะถึงถนนสายตามองไปยังพื้นที่จอดรถ จักรยานจอดอยู่ หลายคัน แต่คันสีเขียวไม่ได้อยู่ ณ ตรงนั้น หลังจากเดินไปทางทิศใต้ประมาณยี่สิบเมตรก็ถึงถนนใหญ่ชื่อชินโอ ฮาชิ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปทางทิศตะวันออกจะเป็นเขตเอโดะกาว่า ทางทิศตะวัน ตกเป็นนิฮอนบาชิ ก่อนถึงนิฮอนบาชิคือแม่น้ำสึมิดะ และนี่เอง สะพาน ชินโอฮาชิ สะพานที่ข้ามแม่น้ำสึมิดะ เส้นทางใกล้ที่สุดที่จะเดินไปที่ททำงานของอิชิกามิคือเดินตรงไปทาง ทิศใต้สักประมาณสองสามร้อยเมตรจะเจอสวนสาธารณะคิโยะสึมิเทเอ็น และโรงเรียนมัธยมปลายที่อิชิกามิททำงานก็ตั้งอยู่หน้าสวนสาธารณะนี่เอง อิชิกามิเป็นครูสอน ณ โรงเรียนแห่งนี้ เมื่อสี่แยกเปลี่ยนเป็นไฟแดง อิชิกามิเดินเลี้ยวขวาไปทางถนน ชินโอฮาชิ ลมกระโชกแรงจนเสื้อโค้ตของเขาปลิวกระทบกันดังแกรกกราก เขาซ่อนมือทั้งสองไว้ในเสื้อโค้ต ค้อมตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยขณะก้าวเท้าเดิน ท้องฟ้าดารดาษไปด้วยมวลเมฆ เงาของมันสะท้อนลงไปในแม่น้ำ สึมิดะแปลงให้แม่น้ำเป็นสีขุ่น ระหว่างเดินข้ามสะพานเมื่อข้ามสะพานไปแล้ว เขาก้าวลงบันไดที่อยู่ปลายสะพาน เดิน ลอดใต้สะพานเลียบแม่น้ำสึมิดะ สองฟากแม่น้ำทำทางเดินไว้ให้คนมา เดินเล่น แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปเดินเล่นแถวสะพานคิโยสุที่อยู่เลยออก ไปเสียมากกว่า แม้วันหยุดก็ไม่ค่อยมีใครอยากมาเดินเล่นแถวนี้ หาก มาดูเองก็จะรู้ทันทีว่าเพราะอะไร เนื่องจากแถวนี้มีคนจรจัดกางเต็นท์ผ้า พลาสติกสีฟ้าเรียงกันเต็มไปหมด ข้างบนเป็นทางด่วน ทำให้เป็นที่กั้นกัน ฝนกันลมได้เป็นอย่างดี พวกเขาจึงเลือกที่นี่ปักหลักพักอาศัย ส่วนอีกฟาก ของแม่น้ำจะไม่เห็นเต็นท์สีฟ้าเหล่านี้เลย อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาชอบอยู่ รวมกันเป็นกลุ่มก็ได้ เดินผ่านเต็นท์สีฟ้าเหล่านั้นไปเรื่อยๆ เต็นท์ที่มีความสูงพอๆ กับ ความสูงของคน แต่ด้านในของเต็นท์นั้นสูงแค่เอว แทนที่จะเรียกว่าเต็นท์ เรียกกล่องน่าจะเหมาะสมกว่า หากใช้เป็นที่นอนก็พอได้ ใกล้ๆ กล่องเหล่า นี้มีไม้แขวนเสื้อแขวนอยู่ ราวกับได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าที่นี่จะ เป็นถิ่นพำนักของพวกเขา ชายผู้หนึ่งยืนพิงรั้วทางเดินริมแม่น้ำ เขากำลังแปรงฟันอยู่ อิชิกามิ เคยเห็นเขาอยู่บ่อยครั้ง อายุประมาณหกสิบนิดๆ รวบผมสีดอกเลาไว้ ด้านหลัง ผู้ชายคนนี้คงไม่อยากทำงาน ถ้าอยากทำงานที่ใช้แรง ก็คงไม่ มาเดินไปมาในเวลานี้ เพราะช่วงเช้าตรู่เป็นเวลาที่จะมีคนเอางานมาเสนอ แล้วเขาก็คงไม่อยากไปสำนักงานจัดหางานด้วย ถึงอยากทำงานเท่าไร ผมยาวแบบนั้นและอายุมากขนาดนี้ก็คงไม่มีบริษัทไหนรับสัมภาษณ์ โอกาสได้งานแทบจะไม่มี ใกล้ๆ กับที่นอน มีผู้ชายกกำลังทุบกระป๋องเปล่า อิชิกามิเคยเห็น ชายคนนี้หลายครั้งแล้ว แถมยังตั้งชื่อให้ว่า ‘คนเก็บกระป๋อง’ อายุราวห้า สิบปี มีข้าวของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันค่อนข้างครบ แม้กระทั่งจักรยาน สองล้อก็คงหามาไว้ใช้เพื่อจะได้เก็บกระป๋องเร็วขึ้น ขอบเขตของเขาอยู่ ปลายสุดของกลุ่มเต็นท์ ลึกเข้าไปทางด้านในน่าจะเป็นบริเวณที่ดีที่สุด คิดได้ว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่มานาน ห่างจากกลุ่มเต็นท์พลาสติกสีฟ้าเพียงเล็กน้อย มีชายคนหนึ่งสวม เสื้อโค้ตนั่งอยู่บนม้านั่ง สีดั้งเดิมของโค้ตตัวนี้คงเป็นสีครีม ทว่าตอนนี้ สกปรกจนเกือบกลายเป็นสีเทา เขาสวมเสื้อโค้ตทับเสื้อแจ๊คเก็ต ส่วนชั้น ในสุดเป็นเสื้อเชิ้ต อิชิกามิเดาว่าเขาคงเก็บเนคไทไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ต อิชิกามิตั้งชื่อผู้ชายคนนี้ว่า ‘นายช่าง’ เพราะวันก่อน อิชิกามิเห็นเขา อ่านนิตยสารด้านอุตสาหกรรม เขาตัดผมสั้นเรียบร้อย โกนหนวดเครา เกลี้ยงเกลา ‘นายช่าง’ น่าจะยังไม่หมดความหวังที่จะมองหางานใหม่ วัน นี้ก็คงจะแวะไปสำนักงานจัดหางานอีก แต่คงหางานไม่ได้หรอก เพราะ ถ้าอยากจะได้งาน ก่อนอื่นต้องทิ้งคำว่าศักดิ์ศรีไป อิชิกามิเพิ่งจะเห็น ‘นายช่าง’ ที่นี่เมื่อสิบวันก่อน ท่าทางแกยังไม่คุ้นชินกับชีวิตแบบนี้ และคง อยากจากลาชีวิตเต็นท์เสียที แต่จะให้ออกไปเร่ร่อนไม่มีที่ซุกหัวนอนก็ทำใจ ไม่ได้จึงจำทนต้องอยู่ไปก่อน อิชิกามิเดินเลียบริมแม่น้ำสึมิดะไปเรื่อยๆ ด้านหน้าของสะพานคิโยสุ หญิงชราคนหนึ่งกำลังพาหมาสามตัวมาเดินเล่น เป็นหมาพันธุ์มินิเอเจอร์ ดัชชุนด์ แต่ละตัวสวมสายคล้องคอหลากสี ได้แก่ สีแดง ฟ้า และชมพู พอ เดินไปใกล้ขึ้น หญิงชราเห็นว่าเป็นอิชิกามิจึงยิ้มและก้มหัวทักทายเล็กน้อย เขาก็ทักทายตอบเช่นเดียวกัน “สวัสดีครับ” เขากล่าวขึ้นก่อน “สวัสดีค่ะ วันนี้อากาศเย็นนะคะ” “นั่นสิครับ” ตอนเดินผ่านกัน หญิงชราก็พูดขึ้นอีกว่า “ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ”