กลลวง ซ่อนตาย

 เลขส่วนเนื้อหาที่ 3


เมนูเลือก หน้า
  • Home

  • Chapter1

  • Chapter2

  • Chapter3

  • Chapter4
  • เนื้อเรื่องย่อ บทที่3

             ของ ที่หล่นจากมือของมิซาโตะ เป็นแจกันทองแดงที่ได้มา จาก “เบ็นเท็งเท” วันงานเปิดร้าน “มิซาโตะ…ลูก” ยาสึโกะจ้องหน้าลูกสาว มิซาโตะมีสีหน้าเรียบเฉยยืนนิ่งขึงราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ ทว่าในวินาทีถัดมา ดวงตากลับเบิกกว้าง ทั้งร่างเกร็งจ้องไปที่ด้าน หลังของยาสึโกะ เมื่อยาสึโกะหันกลับไป ก็พบว่าโทงาชิกำลังโงนเงนลุกขึ้นยืน ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เอามือกุมหลังศีรษะ “พวกแก…” โทงาชิแค่นเสียงออกมาด้วยความโกรธแค้น ส่งสายตา ดุดันไปที่มิซาโตะ หลังจากโอนเอนไปมาอยู่พักหนึ่งจึงเริ่มเดินเข้าไปหา ยาสึโกะรีบขวางไว้ “อย่านะ” “หลีกไป” โทงาชิจับแขนยาสึโกะเหวี่ยงไปด้านข้างสุดแรงเกิด หลังของยาสึโกะกระแทกเข้ากับฝาผนังอย่างแรง โทงาชิคว้าไหล่ของมิซาโตะที่กำลังหนีได้ทัน มิซาโตะต้องย่อตัวลง เพราะทนแรงกดไม่ไหว โทงาชิขึ้นคร่อม กระชากผม แล้วต่อยที่แก้มด้วย หมัดขวา “นังตัวดี กูจะฆ่ามึง” เขาคำรามราวสัตว์ร้าย วินาทีนั้นเองที่ยาสึโกะคิดว่าลูกสาวของตัวเองต้องถูกฆ่า ยาสึโกะหันไปมองรอบๆ เห็นเพียงสายไฟของโต๊ะโคะตัทสึเธอจึงกระชากออกมาจากปลั๊ก ปลายสายติดอยู่กับตัวโต๊ะ ยาสึโกะลุกขึ้นยืน ถือสายไฟไว้ในมือ เดินไปทางด้านหลังของโทงาชิที่กำลังนั่งทับมิซาโตะ อยู่ แล้วเอาสายไฟทำเป็นห่วงคล้องไว้ที่คอแล้วดึงสุดแรง โทงาชิร้องดังโอ๊ก หงายหลังล้มตึง เมื่อรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพยายามเอานิ้วเกี่ยวสายออก ทว่ายาสึโกะยื้อจนสุดกำลัง เพราะรู้ว่า หากตนเองปล่อยมือจะไม่มีโอกาสนี้อีก และชายผู้นี้ก็จะเกาะติดอยู่กับตน เหมือนตัวปลิงไปตลอดชีวิต ยาสึโกะไม่สามารถทานกำลังของโทงาชิได้ ตอนนั้นเองที่สายไฟ เลื่อนหลุดจากมือ มิซาโตะเห็น จึงวิ่งเข้าไปพยายามดึงนิ้วของโทงาชิที่เกี่ยว อยู่ออก ขึ้นนั่งทับกดตัวเขาให้ดิ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ “แม่ เร็วๆ เข้า เร็วสิ” ไม่มีเวลาคิดแล้ว ยาสึโกะปิดตาแน่น ทุ่มเทแรงทั้งหมดไปที่แขนทั้ง สองข้าง ดึงเชือกให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เสียงหัวใจเต้นตูมตาม ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงมิซาโตะ เรียกเบาๆ ว่า “แม่ แม่คะ” ยาสึโกะเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ในมือยังกำสาย ไฟแน่น เมื่อลืมตาเต็มที่ก็เห็นศีรษะของโทงาชิอยู่ตรงหน้า ตาสีเทาเหลือก ปลิ้นจ้องเคว้งคว้างไปในอากาศ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำเพราะถูกรัด จนเลือดไม่เดิน เกิดรอยสายไฟกดที่คอจางๆ โทงาชินอนนิ่งไม่กระดิกกระเดี้ย น้ำลายกับน้ำมูกไหลย้อย ยาสึโกะ หวีดร้องปล่อยสายไฟหลุดจากมือ ศีรษะของโทงาชิหล่นลงบนเสื่อทาทามิ เสียงดังตุ้บ ไม่ขยับเขยื้อน มิซาโตะเคลื่อนตัวลงจากร่างของโทงาชิอย่างหวาดๆ กระโปรงยับ ยู่ยี่ นั่งแปะลงกับพื้น พิงฝาผนัง สายตาจับจ้องไปที่ร่างนั้นอยู่ ทั้งสองต่างนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ทว่ายังจ้องร่างที่นอนนิ่งของโทงาชิ หลอดไฟส่งเสียงดังอี่ๆ ดูเหมือนจะดังก้องกว่าที่เคย “ทำไงดี เขาตายแล้ว…” - 27 - ฮิงาชิโนะ เคโงะ “แม่” ยาสึโกะหันไปทางลูกสาว แก้มของมิซาโตะขาวซีด นัยน์ตาแดงกำีคราบน้ำตาติดอยู่ เธอไม่รู้เลยว่าลูกสาวร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไร ยาสึโกะหันไปมองโทงาชิอีกครั้ง ใจหนึ่งคิดอยากให้ฟื้น อีกใจหนึ่ง คิดว่าไม่ แต่ความเป็นจริงก็คือ ชายผู้นี้คงไม่ฟื้นลุกขึ้นมาอีกแล้ว “เป็นความผิดของมัน…” มิซาโตะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ ซุกหน้าลง ไปร้องไห้สะอึกสะอื้น ก่อนจะกระซิบถามตัวเองอีกครั้งว่า “ทำไงดี” เสียงออดประตูก็ดัง ขึ้น ยาสึโกะตัวสั่นด้วยความตกใจ มิซาโตะเงยหน้า สองแก้มชุ่มน้ำตา สองแม่ลูกมองหน้ากันเป็นเชิง ถามว่า ใครกันที่มาหาในเวลานี้ ต่อมาเป็นเสียงเคาะประตู มีเสียงผู้ชายดังขึ้นว่า “คุณฮานาโอกะ ครับ” ยาสึโกะเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกในทันทีว่าเป็นเสียง ใคร เธอนิ่งขึงราวถูกมนต์สะกด ทั้งคู่ยังมองหน้ากันไปมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง “คุณฮานาโอกะ คุณฮานาโอกะครับ” คนที่เคาะประตูต้องรู้แน่ว่า สองแม่ลูกอยู่ข้างใน ทำให้จำใจต้องไป เปิด แต่ก็ไม่อาจเปิดประตูในสภาพนี้ได้ “ลูกเข้าไปอยู่ในห้อง เลื่อนประตูปิดซะ อย่าออกมาเป็นอันขาด” ยาสึโกะสั่งลูกสาวด้วยเสียงเบาๆ สติเริ่มกลับมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก ยาสึโกะสูดลมหายใจลึกๆ “ค่ะ” พยายามส่งเสียงออกไปให้ปกติที่สุด “ใครคะ” “อิชิกามิที่อยู่ห้องติดกันครับ” ยาสึโกะสะดุ้ง เหตุการณ์เมื่อสักครู่คงทำให้เกิดเสียงดังมาก คนที่ อยู่ห้องติดกันต้องสงสัยแน่นอนว่าเป็นเสียงอะไร “รอสักครู่นะคะ” ยาสึโกะหวังให้น้ำเสียงตอบไปดูเป็นปกติ แต่ไม่รู้