กลลวง ซ่อนตาย
เลขส่วนเนื้อหาที่ 4
เมนูเลือก หน้า
Home
Chapter1
Chapter2
Chapter3
Chapter4
เนื้อเรื่องย่อ บทที่4
เหมือนกันว่าคนฟังจะได้ยินเป็นเช่นไร มิซาโตะเข้าไปหลบอยู่ในห้องด้านใน ปิดบานประตูเลื่อน ยาสึโกะ มองร่างของโทงาชิ พลางคิดว่าจะทำอย่างไรดี โต๊ะโคะตัทสึเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมมากคงเป็นตอนที่ดึงสายไฟ ยาสึโกะดึงโต๊ะให้เลื่อนออกไปอีก แล้วเอาผ้าคลุมโต๊ะมาคลุมครอบศพไว้ ตำแหน่งดูผิดเพี้ยน แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว หลังสำรวจเสื้อผ้าและร่างกายของตัวเองเสร็จก็เดินลงไปบริเวณ ที่ถอดรองเท้า สายตาเหลือบไปเห็นรองเท้าสกปรกของโทงาชิวางอยู่ จึง เก็บเข้าตู้ แล้วปลดโซ่คล้องประตูเงียบๆ ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก โชคดีที่ อิชิกามิไม่ถือวิสาสะเปิดเข้ามาเอง เปิดประตูออกไปก็เห็นใบหน้ากลมใหญ่ของอิชิกามิอยู่ตรงหน้า ตาตี่ เป็นเส้นด้ายที่มองมายังยาสึโกะโดยปราศจากความรู้สึกใดๆ แต่ก็ทำให้เธอ ขนลุกอย่างแปลกประหลาด “เอ่อ…มีอะไรเหรอคะ” ยาสึโกะพูดพร้อมกับยิ้ม รู้สึกได้ชัดว่าแก้ม ของตนเครียดเกร็ง “ผมได้ยินเสียงดัง” อิชิกามิพูดด้วยสีหน้าราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ เช่นเคย “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ” “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ยาสึโกะสั่นหัวอย่างแรง “ขอโทษนะคะ ที่รบกวน” “ไม่มีอะไรก็แล้วไปครับ” ยาสึโกะสังเกตว่าสายตาของอิชิกามิมองเข้าไปในห้อง อุณหภูมิใน ร่างกายของตนสูงขึ้นมาทันที “เอ่อ…แมลงสาบน่ะค่ะ” ปากหลุดคำพูดออกไป “แมลงสาบ?” “ค่ะ แมลงสาบวิ่งเพ่นพ่านอยู่ ก็เลย…ไล่ตีมันกับลูก…เสียงเลยดัง หน่อยน่ะค่ะ” “แล้วตายมั้ยครับ” “หา…” ยาสึโกะอึกอักกับคำถามของอิชิกามิ “แล้วฆ่าแมลงสาบได้มั้ยล่ะครับ” “เอ่อ…ค่ะ เรียบร้อยไปแล้วค่ะ” ยาสึโกะผงกหัวติดต่อกันหลายครั้ง “งั้นหรือครับ ถ้าผมช่วยอะไรได้ไม่ต้องเกรงใจนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะที่ทำเสียงดัง” ยาสึโกะโค้ง คำนับ ปิดประตูแล้วล็อกกลอน หลังจากได้ยินเสียงอิชิกามิเดินกลับไปที่ ห้องแล้วปิดประตู ยาสึโกะก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เสียงบานประตูเลื่อนเปิดที่ด้านหลัง มิซาโตะส่งเสียงเรียก “แม่” ยาสึโกะลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง แต่พอหันไปเห็นผ้าคลุมโต๊ะ โคะตัทสึนูนขึ้นมา ความสิ้นหวังก็ถาโถมสู่หัวใจอีกครั้ง ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “ช่วยไม่ได้” “ทำไงดี” มิซาโตะเหลือบตามองหน้าแม่ “จะทำยังไงได้ ก็คงต้อง…แจ้งตำรวจ” “แม่จะมอบตัวเหรอ” “เป็นวิธีเดียว คนที่ตายไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมาไม่ได้หรอก” “ถ้าแม่มอบตัวแล้วจะเป็นยังไง” “ไม่รู้เหมือนกัน…” ยาสึโกะเอามือเสยผม เพิ่งรู้ตัวว่าผมยุ่งมาก ครูสอนคณิตศาสตร์ ที่ข้างบ้านต้องรู้สึกผิดสังเกตอย่างแน่นอน แต่ยาสึโกะก็ไม่สนใจอีกต่อไป “แม่ต้องติดคุกหรือเปล่า” ลูกสาวเอ่ยถามขึ้นมาอีก “ก็คงเป็นอย่างนั้นล่ะ” ยาสึโกะยิ้มแบบถอดใจ “ฆ่าคนไปทั้งคนนะ” มิซาโตะสั่นหัวอย่างแรง “ไม่ยุติธรรมเลย” “ทำไมล่ะ” “แม่ไม่ผิดสักหน่อย มันต่างหากที่ผิด ไม่เกี่ยวข้องกับเราแล้วก็ยัง มายุ่งกับเราอยู่ได้…แล้วทำไมเราต้องติดคุกเพราะมันด้วย”“ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง เราก็ฆ่าคนไปแล้ว” ช่วงเวลาที่อธิบายให้มิซาโตะฟัง ยาสึโกะสงบใจได้อย่างประหลาด สามารถคิดอย่างมีเหตุมีผลได้ และยิ่งเห็นชัดว่ามีทางเลือกเพียงทางเดียว เท่านั้นจริงๆ ไม่อยากให้มิซาโตะถูกตราหน้าว่าเป็นลูกฆาตกรหรอก แต่หาก ไม่สามารถหนีจากความจริงได้ ก็ต้องเลือกทางที่สังคมจะด่าว่าน้อยที่สุด ยาสึโกะมองโทรศัพท์ไร้สายที่กลิ้งอยู่บนพื้น เอื้อมมือจะหยิบ “อย่านะแม่” มิซาโตะเดินเข้ามาหาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือของ ยาสึโกะ “ปล่อยนะ” “หนูไม่ปล่อย” มิซาโตะคว้าข้อมือของยาสึโกะได้ ทว่าแรงของ มิซาโตะมีมากกว่า อาจเป็นเพราะออกกำลังกายเล่นแบดมินตันอยู่เป็นประจำ “แม่ขอร้องละ ปล่อยมือแม่เถอะ” “หนูไม่ยอมให้แม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่งั้นหนูจะมอบตัวเอง” “พูดอะไรบ้าๆ” “หนูฟาดมันก่อน แม่แค่จะเข้ามาช่วยหนูเท่านั้นเอง แล้วหนูก็ยัง ช่วยแม่จัดการมัน หนูก็เป็นฆาตกรด้วยเหมือนกัน” ที่มิซาโตะพูดนั้นถูกต้องที่สุด ยาสึโกะตกใจ เผลอปล่อยโทรศัพท์ ให้ร่วงหลุดมือ มิซาโตะได้จังหวะแย่งโทรศัพท์มากอดไว้กับตัวเองแน่น เธอเดินไปที่มุมห้อง แล้วหันหลังให้ยาสึโกะ ยาสึโกะคิดวุ่นวายอยู่ในหัวเกี่ยวกับตำรวจ ตำรวจจะเชื่อเราไหมว่า เราฆ่าโทงาชิเพียงลำพัง พวกเขาจะต้อง สืบสวนอย่างละเอียด เคยเห็นในละครว่าจะต้องมีการสืบสวนเพื่อยืนยัน คำให้การ เพื่อจะตรวจสอบว่า สิ่งที่ผู้ต้องสงสัยพูดเป็นความจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการสืบพยาน ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ ยาสึโกะคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่ว่าตำรวจจะขู่ยาสึโกะเท่าไร ก็ตาม เธอมั่นใจว่าตนเองคงไม่พาดพิงไปถึงลูก แต่หากตำรวจสืบจนรู้